เนื้อเรื่องย่อ ของ สวีนนีย์ ท็อดด์ บาร์เบอร์หฤโหดแห่งฟลีทสตรีท

เรื่องเล่าถึงชีวิตของเบนจามิน บาร์กเกอร์ (จอห์นนี เดปป์) ช่างตัดผมชาวอังกฤษผู้มีทักษะความชำนาญสูง เขามีภรรยาชื่อว่าลูซี (ลอรา มิเชลล์ เคลลี) และบุตรสาวที่ชื่อโจฮันนา บาร์กเกอร์ วันหนึ่ง ทอดด์ถูกยัดเยียดข้อหาและรับโทษให้ไปใช้แรงงานในประเทศออสเตรเลีย โดยผู้พิพากษาฉ้อฉลที่ชื่อเทอร์พิน (อลัน ริคแมน) ผู้ที่ต้องการลูซีมาเป็นภรรยาของตัวเอง

15 ปีต่อมา บาร์กเกอร์กลับมาสู่กรุงลอนดอน อังกฤษ บ้านเกิดของเขาอีกครั้ง ภายใต้ชื่อปลอมว่า "สวีนนีย์ ทอดด์" โดยได้เดินทางมาพร้อมกับกะลาสีเรือผู้หนึ่งชื่อแอนโทนี โฮป (เจมี แคมป์เบลล์ โบเวอร์) เมื่อทอดด์เดินทางกลับไปที่ถนนฟลีต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเก่าของเขา ซึ่งอยู่ชั้นบนเหนือร้านขายพายของนางเนลลี เลิฟเวตต์ (เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์) เขาก็ได้รับคำบอกเล่าจากเลิฟเวตต์ว่า ลูซีเสียชีวิตแล้วโดยการดื่มยาพิษฆ่าตัวตายหลังจากที่ถูกเทอร์พินหลอกไปข่มขืน ส่วนโจฮันนา (เจย์น ไวส์เนอร์) ก็โตเป็นวัยรุ่น และกำลังอยู่ในความดูแลของเทอร์พิน เมื่อได้ฟังดังนั้น ทอดด์จึงโมโหและปฏิญาณตนว่าจะแก้แค้นเทอร์พินให้ได้ พร้อมกับกลับมาเปิดร้านตัดผมใหม่อีกครั้งที่ที่พักของเขาเอง

ด้านของแอนโทนี ขณะที่เขาเดินทางไปทั่วกรุงลอนดอน เขาได้พบกับโจฮันนา ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านของผู้พิพากษาเทอร์พิน ทั้งสองตกหลุมรักซึ่งกันและกัน โดยแอนโทนีได้มาเฝ้ามองเธอจากทางเดินบนถนนอยู่เสมอ จนถูกเทอร์พินและบีเดิล แบมฟอร์ด (ทิโมที สปอลล์) ผู้ช่วยของเขา ทำร้ายร่างกายและขับไล่ออกมา จากเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะพาเธอหนีออกมาอยู่ด้วยกันให้ได้

วันหนึ่ง ขณะที่ทอดด์กำลังเดินอยู่ในตลาดสดพร้อมกับเลิฟเวตต์ เขาได้พบกับอาโดลโฟ ปีเรลลี (แซชา แบรอน โคเฮน) ช่างตัดผมที่อ้างตัวว่าเป็นชาวอิตาลี ที่กำลังเร่ขายยาบำรุงเส้นผมอยู่ ทอดด์จับได้ว่ายาบำรุงผมที่ขายนั้นเป็นของปลอมและได้ประณามปีเรลลี เมื่อได้ยินดังนั้น ปีเรลลีจึงท้าดวลแข่งขันการโกนหนวดกับเขา เพื่อดูว่าผู้ใดจะโกนได้เรียบและเร็วกว่ากัน ซึ่งผู้ชนะในการแข่งขันก็คือทอดด์

หลังจากความพ่ายแพ้ครั้งนั้น ปีเรลลี พร้อมกับโทบี (เอ็ด แซนเดอร์ส) เด็กชายผู้ช่วยของเขา ได้เดินทางมาที่ร้านตัดผมของทอดด์ และได้เปิดเผยตัวเองว่าที่จริงแล้วเขาคือแดเนียล โอ ฮิกกินส์ อดีตผู้ช่วยของทอดด์ พร้อมกับขู่ว่าจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าทอดด์ก็คือเบนจามิน บาร์กเกอร์ เมื่อเป็นเช่นนั้น ทอดด์จึงลงมือสังหารปีเรลลีเพื่อรักษาความลับเกี่ยวกับตัวตนของเขาเอาไว้

ต่อมา ผู้พิพากษาเทอร์พิน ซึ่งตั้งใจจะขอโจฮันนาแต่งงาน ได้ไปพบทอดด์ตามคำแนะนำของแบมฟอร์ดเพื่อไปให้เขาโกนหนวดให้ ทอดด์เห็นเป็นโอกาสดีที่จะได้แก้แค้น เขาจึงเตรียมตัวสังหารเทอร์พินโดยพยายามทำให้เทอร์พินผ่อนคลายกับการโกนหนวดของเขาก่อนที่จะปาดคอ แต่ทันใดนั้น ความตั้งใจของเขาก็ถูกขัดขวาง เมื่อแอนโทนีได้เข้ามาหาเขาอย่างกะทันหันเพื่อบอกแผนการในการพาตัวโจฮันนาหนี โดยที่ไม่ทันสังเกตว่าเทอร์พินนั่งอยู่ในร้าน เมื่อเทอร์พินเห็นแอนโทนี เขาก็ออกไปจากร้านอย่างโมโห และได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ทอดด์โกรธจนกล่าวโทษมนุษย์ทุกคนรวมทั้งตัวเขาเองว่าไม่สมควรที่จะดำรงอยู่ เขาจึงตัดสินใจระบายความเดือดดาลนี้ด้วยการฆาตกรรมลูกค้าของตัวเอง เพื่อรอวันที่จะได้มีโอกาสสังหารเทอร์พินอีกครั้ง โดยนางเลิฟเวตต์ที่รับรู้ความรู้สึกดังกล่าว ก็ได้กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในแผนการฆาตกรรมต่อเนื่องของเขาด้วย โดยได้แนะนำวิธีกำจัดศพลูกค้าที่จะถูกเขาฆ่า ว่าควรจะนำเนื้อศพมาประกอบเป็นไส้พายเพื่อเรียกลูกค้าเข้ามาอุดหนุนในร้านของเธอที่กำลังประสบปัญหาเรื่องเงินทุน ทอดด์เห็นด้วยกับความคิดนี้ และได้จัดการปรับปรุงเก้าอี้ตัดผมของเขาใหม่ ให้มีกลไกที่สามารถทิ้งศพเหยื่อที่ถูกเขาปาดคอจากบนร้านลงไปยังห้องอบพายใต้ดินของเลิฟเวตต์ได้

หลายสัปดาห์ผ่านไป แอนโทนีออกตามหาตัวโจฮันนา ซึ่งขณะนั้นถูกเทอร์พินส่งตัวไปกักขังในสถานพักฟื้นผู้ป่วยทางจิตของฟอกก์เพื่อเป็นการลงโทษที่เธอไม่รับคำขอแต่งงานจากเขา ขณะที่เหยื่อที่ทอดด์สังหารเริ่มเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับกิจการร้านตัดผมและร้านขายพายที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเลิฟเวตต์ยังได้รับโทบีมาเลี้ยงดูและเป็นลูกมือในร้านของเธอ

ต่อมาแอนโทนีก็รู้ว่าโจฮันนาอยู่ที่ไหนและได้เล่าเรื่องนี้ให้ทอดด์ฟัง ทอดด์คิดแผนการให้แอนโทนีปลอมตัวเป็นช่างทำผมปลอมฝึกหัดเพื่อเข้าไปหลอกเจ้าหน้าที่ในสถานพักฟื้นว่า จะเข้ามาหาผมของคนไข้หญิงไปทำผมปลอม และฉวยโอกาสช่วยโจฮันนาออกมา

หลังจากที่โจฮันนาถูกช่วยออกมาได้ ทอดด์ก็หลอกล่อเทอร์พินให้กลับมาที่ร้านตัดผมของเขาอีกครั้ง โดยเขาได้ฝากจดหมายที่เขียนในทำนองว่า เขารู้ว่าโจฮันนาหนีไปอยู่ที่ไหน ให้โทบีนำไปให้เทอร์พินที่ศาล ขณะนั้น โทบีเริ่มระแวงในตัวทอดด์ ซึ่งเมื่อเขากลับมาจากการส่งจดหมาย เขาจึงได้นำความไม่ไว้วางใจของเขามาเล่าให้กับเลิฟเวตต์ฟังและสัญญาว่าจะปกป้องเธอจากทอดด์ โดยไม่รู้ว่าเธอคือผู้สมรู้ร่วมคิดกันกับทอดด์ เมื่อเธอรับรู้ถึงความหวาดระแวงนั้น เธอจึงหลอกโทบีให้เข้าไปช่วยบดเนื้อในห้องอบพายและขังเขาไว้ และได้นำความสงสัยของโทบีไปเล่าให้ทอดด์ฟัง ต่อมา บีเดิล แบมฟอร์ด ก็เดินทางมาที่ร้านตัดผมของทอดด์และถูกทอดด์สังหาร ศพของบีเดิลที่ถูกทิ้งลงไปในห้องอบพาย รวมถึงซากชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ถูกทิ้งอยู่ในนั้น ทำให้โทบีรู้ความจริงเกี่ยวกับการกระทำอันโหดร้ายของทอดด์และเลิฟเวตต์ ซึ่งในขณะนั้น ทั้งคู่ได้ลงมาตามหาโทบี แต่หาไม่พบ ขณะเดียวกัน แอนโทนีได้นำโจฮันนามาที่ร้านตัดผม แต่เมื่อไม่พบใคร เขาจึงให้เธอซ่อนตัวในลังเปล่าที่อยู่ในร้าน

ต่อมา หญิงขอทานผู้มีหน้าตาอัปลักษณ์ที่เคยพบกับแอนโทนีตอนต้นเรื่อง และคอยมารบกวนเลิฟเวตต์ตลอดทั้งเรื่องนั้น บัดนี้ได้เข้ามายืนอยู่ในร้านตัดผมเช่นกัน เมื่อทอดด์เข้ามาพบเข้า เขาก็ลงมือสังหารเธอและทิ้งศพเธอไปก่อนที่เทอร์พินจะเข้ามา เมื่อเขาพบเทอร์พินอีกครั้ง ทอดด์ได้บอกเบาะแสเกี่ยวกับโจฮันนาให้ฟัง และได้เชิญชวนให้มานั่งเก้าอี้ตัดผมเพื่อที่เขาจะได้โกนหนวดให้ และแล้วความแค้นของเขาก็ถูกชำระเมื่อเขาเปิดเผยตัวเองว่าเขาคือเบนจามิน บาร์กเกอร์ ก่อนที่จะลงมือสังหารเทอร์พินและทิ้งศพลงไปในห้องอบพาย ช่วงเวลานั้น โจฮันนาที่แอบดูการกระทำของทอดด์โดยตลอด ก็ถูกทอดด์จับได้และเกือบจะถูกปาดคออีกคน ซึ่งทอดด์ไม่ทราบว่านี่คือบุตรสาวของเขาเอง เสียงกรีดร้องของเลิฟเวตต์จากห้องอบพาย เนื่องจากเธอถูกเทอร์พินดึงกระโปรงของเธอเอาไว้ก่อนที่จะสิ้นใจ ทำให้เขาเปลี่ยนใจไม่ลงมือกับโจฮันนาและรีบลงไปหาเลิฟเวตต์ทันที เมื่อเขาลงมาถึง เขาได้สังเกตเห็นว่าศพของหญิงขอทานที่เขาเพิ่งสังหารนั้นก็คือลูซี ภรรยาของเขาที่เขาเชื่อว่าเธอเสียชีวิตไปแล้วตามที่เลิฟเวตต์เล่าให้ฟัง ทอดด์เสียใจมาก และรู้ตัวว่าเลิฟเวตต์ปิดบังเรื่องที่ลูซียังมีชีวิตอยู่จากเขามาตลอด ซึ่งเลิฟเวตต์ก็ได้สารภาพว่า ที่ต้องโกหกไปเช่นนั้นเนื่องจากเธอรักเขา และต้องการจะแต่งงานด้วยกัน ทอดด์ทำทีว่ามีความสุขกับคำพูดของเธอและจับเธอเต้นรำไปรอบ ๆ ห้องอบก่อนที่จะเหวี่ยงเธอเข้าไปในเตาอบพายที่เปิดอยู่ และมองดูเธอถูกเผาจนเสียชีวิต

ทอดด์กลับไปดูศพของลูซีอีกครั้งพร้อมกับยกร่างของเธอขึ้นมากอดอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้น โทบีที่ซ่อนตัวอยู่ในรางระบายน้ำในห้อง ก็ปรากฏตัวขึ้นมาและเดินมาหยิบมีดโกนของทอดด์ที่ตกอยู่บนพื้น ก่อนที่จะใช้มันปาดคอของทอดด์ที่กำลังโศกเศร้ากับการกระทำของตัวเอง และโทบีก็ได้เดินจากไป ทิ้งศพของทอดด์ที่มีเลือดไหลชโลมร่างของลูซีไว้เพียงลำพัง

แหล่งที่มา

WikiPedia: สวีนนีย์ ท็อดด์ บาร์เบอร์หฤโหดแห่งฟลีทสตรีท http://allmovie.com/cg/avg.dll?p=avg&sql=1:352629 http://www.allmovie.com/cg/avg.dll?p=avg&sql=1:352... http://www.bizjournals.com/milwaukee/stories/2008/... http://www.boxofficemojo.com/intl/thailand/?yr=200... http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=sweeneytod... http://www.emanuellevy.com/search/details.cfm?id=8... http://www.ew.com/ew/article/0,,20155516_20155530_... http://www.ew.com/ew/article/0,,20155983,00.html http://www.ew.com/ew/article/0,,461190,00.html http://movies.ign.com/articles/712/712364p1.html